ผลิตภัณฑ์แก้ว
แก้วได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง
เนื่องจากแก้วมีสมบัติที่ดีหลายประการ ทั้งมีความโปร่งใส ทนต่อกรดเบส
ไอน้ำและแก๊สซึมผ่านได้ยาก แข็งแรงและทนต่อแรงดันได้ แก้วทำจากทรายแก้วหรือซิลิกา โซดาแอช
หินปูน โดโลไมต์และเศษแก้วประมาณ30%
โดยมวล สารที่เติมลงไปจะช่วยเพิ่มความแกร่งของเนื้อแก้ว เมื่อได้รับความร้อน
สารประกอบคาร์บอนจะเปลี่ยนไปเป็นสารประกอบออกไซด์ และหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
เรียกว่าน้ำแก้ว จากนั้นลดอุณหภูมิ
เพื่อให้แก้วมีความหนืดก่อนทำการขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
จำแนกแก้วตามองค์ประกอบทางเคมีเช่น
- แก้วโซดาไลม์
องค์ประกอบหลักเป็นซิลิกา โซเดียมออกไซด์ แคลเซียมออกไซด์ ไม่ทนต่อสภาพความเป็นกรดเบส
แตกง่ายเมื่อรับความร้อน แสงขาวผ่านได้แต่ดูดกลืนอัลตราไวโอเลต เช่น แก้วน้ำ
ขวดน้ำ กระจกแผ่น สามารถทำให้แก้วมีสีต่างๆได้โดยเติมออกไซด์ของสารบางชนิดลงไป
- แก้วโบโรซิลิเกต
มีซิลิกาเป็นส่วนผสมปริมาณค่อนข้างสูง
โซเดียมออกไซด์และแคลเซียมออกไซด์ในปริมาณที่ลดลง เติมออกไซด์ของโบรอนลงไปเพื่อให้ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
ใช้ทำภาชนะสำหรับไมโครเวฟ เครื่องแก้วในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
- แก้วคริสตัล
มีออกไซด์ของตะกั่วกับโพแทสเซียมเป็นส่วนผสม มีดัชนีหักเหสูงมาก
เมื่อแสงมากระทบจะเห็นประกายแวววาว มีราคาแพงเนื่องจากต้องใช้ทรายแก้วที่มีเหล็กเจือปนน้อยมาก
ผลิตในปริมาณน้อยและใช้ฝีมือในการเจียระไน
- แก้วโอปอล
มีการเติมสารบางชนิดเพื่อให้เกิดการตกผลึกหรือแยกชั้นในเนื้อแก้ว
ทำให้มีความขุ่นและโปร่งแสง หลอมขึ้นรูปได้ง่าย
ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานมากในปัจจุบันคือ
กระจกแผ่น ใช้ในการตกแต่งอาคาร ทำเครื่องใช้ ทำโดยดึงและรีดน้ำแก้วที่มีความหนืด
เหมาะต่อการขึ้นรูปตามแนวราบ แล้วทำให้เย็นลงและผ่านไปยังเครื่องขัด
จะได้กระจกผิวเรียบ นำไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ตามลักษณะงานต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น